บทที่ 16 เริ่มเลี้ยงดูสามี

ฉีหลินและเฟยจินกลับมาถึงบ้านทั้งสองคนนำปลาไปใส่ถังโอ่งดิน  ใบเล็ก ๆ เอาไว้ก่อนจากนั้นฉีหลินก็นำใบบัวไปล้างให้สะอาดพักเอาไว้    ส่วนกุ้งนางกำลังคิดว่าจะทำอะไรกินดี

กุ้งแม่น้ำตัวโตขนาดนี้ทำไมคนที่นี่เรียกปลาเปลือกแข็งกัน ถ้ากุ้งเรียกปลาเปลือกแข็งแล้วถ้าเป็นปูล่ะจะเรียกว่าอะไร คงไม่เรียกว่าปลากระดองแข็งหรอกใช่ไหม ฉีหลินหัวเราะคิกคักกับความคิดไร้สาระของตัวเองแต่เอาเข้าจริงคนที่นี่เรียกปูว่าปลากระดองแข็งจริง ๆ นี่คือสิ่งที่ฉีหลินรับรู้ในเวลาต่อมา

ฉีหลินจะทำข้าวห่อใบบัวแต่เครื่องปรุงอาจจะไม่ครบ เช่นนั้นก็มาดัดแปลงเอาตามของที่มีก็แล้วกัน นางเดินเข้าไปในครัวไม่รู้ว่าที่โลกแห่งนี้   จะมีเผือกหรือยัง เพราะความทรงจำบางส่วนขาดหายนางจึงไม่แน่ใจว่า      มีหรือยัง

ถึงจะไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่มี แต่ในมิตินางมีในเมื่ออยากกินต้องได้กิน ฉีหลินเริ่มต้นด้วยการแกะกุ้งพักเอาไว้ จากนั้นก็ไปหุงข้าว นำเผือกออกมา หั่นเต๋าเอาไว้ ในห้องครัวมีแครอทพอดีนางนำมาหั่นเต๋าเอาไว้เช่นเดียวกัน

“แล้วเราจะใส่กุนเชียงดีหรือไม่ ถ้าไม่ใส่ก็จะไม่อร่อยน่ะสิ แต่ถ้าใส่จะตอบคำถามทุกคนว่ายังไงดี โอ้ยย ปวดหัวจริง ๆ อึดอัดจะแย่แล้ว ใส่ ๆ  ไปเถอะงั้นก็เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว”

หลังจากที่พูดปรึกษากับตัวเองอยู่นานสองนานนางหยิบเอากุนเชียงในมิติออกมาหั่นเต๋า เห็ดหอมหั่นเต๋า ต้นหอมซอย เมื่อเตรียมเครื่องครบ   ทุกอย่างแล้ว นางจึงนำกระทะตั้งน้ำมันใส่เผือก แครอท กุนเชียง กุ้ง และข้าวลงไปผัดให้เข้ากันด้วยไฟปานกลาง เมื่อสุกได้ที่แล้วนางถอยฟืนออกจากเตาให้เป็นไฟอ่อน ๆ จากนั้นใส่เครื่องปรุงที่นางแอบเอาออกมาจากมิติ

หลังจากใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำมันหอย เกลือ น้ำตาล พริกไทยป่นนิดหน่อย เมื่อผัดจนเครื่องปรุงเข้ากันดีแล้วจึงยกลงจากเตา จากนั้นตักใส่  ใบบัวห่อและนำไปนึ่งในน้ำเดือดเป็นเวลา 1 เค่อเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

จากนั้นฉีหลินเริ่มทำเมนูปลา ปลาที่จับมาวันนี้ตัวใหญ่และมีเนื้อเยอะก้างน้อยวันนี้นางจะทำปลานึ่งซีอิ๊ว เริ่มจากทำความสะอาดปลาควักไส้   ขอดเกล็ด และล้างด้วยเกลือจนสะอาดดีแล้วนำมาพักเอาไว้

จากนั้นซอยขิงให้เป็นเส้น ๆ และต้นหอมพักเอาไว้ เมื่อเตรียม     ทุกอย่างเสร็จแล้ว ฉีหลินนำปลามาใส่จาน ก่อนที่จะเอาปลาใส่จานนางวางของหั่นแว่นและต้นหอมเอาไว้ก่อน นำปลาไปนึ่งในน้ำเดือด เป็นเวลา 1 เค่อ พอปลาสุกยกออกจากเตาและเทน้ำที่อยู่ในจานออก นำต้นหอมและขิงมาโรยบนตัวปลา จากนั้นนำซีอิ๊วขาวราดไปที่ตัวปลา ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว นำน้ำมันร้อน ๆ ราดลงไปให้ทั่วตัวปลาอีกที เป็นอันเสร็จ

ฉีหลินยังได้ทำน้ำแกงปลาอีกหนึ่งหม้อใหญ่เอาไว้ด้วย น้ำแกงปลา  สีเหมือนน้ำนม ความหอมของเครื่องปรุงและความสดใหม่ของปลา ยิ่งชูรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น ตอนนี้ทุกคนที่ได้กลิ่นอาหารพาลทำเอาท้องร้องขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“หอมจังเลย พี่สะใภ้ทำอะไรขอรับ ท้องไส้ข้าปั่นป่วนไปหมดแล้ว” เฟยจินที่ทนไม่ไหวเดินเข้ามาในห้องครัว

“พี่ทำข้าวห่อใบบัว น้ำแกงปลา ปลานึ่งซีอิ้ว ยังเหลือผัดผักป่า     อีกอย่าง พี่ใหญ่ของเจ้าตื่นหรือยัง”

“ตื่นแล้วขอรับ นั่งคุยกับท่านแม่อยู่”

“เจ้าไปตามเฉิงเอ๋อร์กับเจี้ยนเอ๋อร์ให้ไปอาบน้ำได้แล้ว พอท่านพ่อกลับมาจะได้กินข้าว”

“ขอรับพี่สะใภ้”

หลังจากที่ฉีหลินทำมื้อเย็นเสร็จแล้ว นางเดินไปหาสามีเพื่อถามไถ่อาการและให้เขาไปอาบน้ำที่โอ่งหลังบ้านเสียก่อนถึงเขาจะสามารถเดินได้แล้วแต่ยังเดินไกล ๆ ไม่ได้

“ท่านพี่ ไปอาบน้ำก่อนเจ้าค่ะ หิวหรือยังเจ้าคะ ข้าทำมื้อเย็นเสร็จแล้ว หากท่านพี่หิวข้าจะยกมาให้ท่านพี่กินก่อน หรือท่านพี่จะรอกินพร้อม ทุกคนดีเจ้าคะ”

“พี่ยังไม่หิวหรอก รอท่านพ่อกลับมาก่อนค่อยกินพร้อมกันเสียทีเดียว ว่าแต่ว่าเจ้าทำอะไรกินหรือ กลิ่นหอมมาถึงที่นี่พี่ตื่นมาเพราะได้กลิ่นอาหารลอยมาเลยนะ”

“ข้าวห่อใบบัว น้ำแกงปลา ผัดผัก และปลานึ่งซีอิ้วเจ้าค่ะท่านพี่”

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ พวกเรามาแล้วขอรับ”

“ไปอาบน้ำกับอารองของพวกเจ้าเสียก่อนพอท่านปู่กลับมาจะได้กินข้าว เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจขอรับท่านแม่”

“เสี่ยวหู่ เสี่ยวหลาง เสี่ยวเฮย พวกเราไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยว  ท่านแม่ไม่ให้นอนในบ้านนะถ้าไม่อาบน้ำ”

“ไปกันได้เสียที พี่ยังทำใจไม่ได้สักที เห็นเจ้าพวกนี้แล้วอดขนลุกไม่ได้” เฟยเทียนมองตามหลังลูกชายและบรรดาเหล่าเพื่อนเล่นที่วิ่งออกไปอาบน้ำ

“อีกเดี๋ยวก็ชินเจ้าค่ะ ท่านพี่ทำใจให้สบาย ไม่ดีหรือเจ้าคะที่มี    พวกสามเสี่ยวอยู่ จะได้ไม่มีใครมากล้ารังแกลูก ๆ ของเรา”

“พี่จะพยายามนะ”

“ท่านพี่พักผ่อนเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าป่ากับ   น้องรอง ท่านพี่อยู่บ้านกับท่านแม่และลูก ๆ นะเจ้าคะ”

“ได้ พี่จะเชื่อฟังเจ้า หวังว่าเจ้าจะให้รางวัลกับพี่บ้าง”

“ข้าไม่พูดกับท่านพี่แล้ว ท่านเป็นเด็กหรือยังไง ถึงได้อยากได้รางวัลเวลาที่ตัวเองทำตัวดี”

เฟยเทียนที่เห็นภรรยาเดินออกไปด้วยหน้าแดงก่ำ เขาได้แต่หัวเราะที่สามารถหยอกเย้าภรรยาให้เขินอายได้ นางเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ดีกว่าที่จะยอมอดทนให้คนรังแกเหมือนเมื่อก่อน

ก่อนเวลาอาหารเย็นนิดหน่อย หยางเทียนฉีก็กลับมาถึงบ้านหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วทุกคนมารวมกันที่ห้องโถงของบ้านและลงมือกินข้าวทันที อาหารมื้อนี้ของฉีหลินได้รับเสียงชมเชยไม่น้อย พวกเขาไม่รู้ว่าปลาเปลือกแข็งจะสามารถนำมาทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้

หลังจากที่ทุกคนกินจนอิ่มแล้ว เยว่เล่อมีหน้าที่เก็บล้างทำความสะอาดถ้วยชาม หลังมื้ออาหารค่ำจะเป็นเวลาที่ครอบครัวมานั่งพูดคุย ปรึกษากัน

“ท่านพ่อ งานก่อสร้างคืบหน้าไปมากน้อยเท่าไหร่แล้วเจ้าคะ”

“วันนี้พ่อให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างบ้านจากไม้ไผ่ให้เราอยู่ชั่วคราวก่อน ส่วนนายช่างที่จ้างมาจากในเมืองกำลังวางรากฐานของบ้านคาดว่า    อีกไม่เกินหนึ่งเดือนบ้านหลังใหญ่ของเราจะสร้างเสร็จ”

“แล้วบ้านไม้ไผ่สร้างเสร็จหรือยังเจ้าคะ”

“พรุ่งนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ วันมะรืนเราจะย้ายบ้านทันที ตอนนี้พวกเจ้าเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่”

“เก็บเสร็จหมดแล้วขอรับท่านพ่อวันนี้ข้ากับท่านแม่และน้องเล็กช่วยกันเก็บลงหีบเอาไว้แล้ว” เฟยจิน

“ส่วนของการล้อมรั้วไม่เกิน 10 วัน คงแล้วเสร็จ พ่อได้ว่าจ้าง    ทาสหลวงมาทำงานด้วย เพราะแรงงานชาวบ้านมีไม่เพียงพอ”

“ท่านพ่อมีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ขอรับ ตอนนี้ข้าพอจะเดินได้บ้างแล้ว” เฟยเทียน

“เจ้ารักษาตัวเองให้หายดีเสียก่อน อย่าให้เสียความตั้งใจของเมียเจ้า หากเจ้าเจ็บป่วยขึ้นมาอีก คนที่เสียใจมากคือนาง พ่อกับแม่ของเจ้าเองก็  ปวดใจไม่น้อย เอาไว้หายดีเมื่อไหร่แล้วค่อยมาช่วยกันทำงาน”

“ขอรับท่านพ่อ ข้าขอโทษที่คิดน้อยไปหน่อย”

“ท่านพ่อเจ้าคะข้าว่าบ้านเราคงต้องซื้อเกวียนวัวแล้วล่ะเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นเราจะขนย้ายลำบาก”

“พ่อก็คิดเช่นเดียวกันกับเจ้าเอาเป็นว่าพ่อจะไปซื้อเกวียนวัวมา    สักเล่มก็แล้วกันพรุ่งนี้ เลือกเกวียนที่มีขนาดใหญ่หน่อย วัวเทียมเกวียน     สักสองตัว จะได้มีแรงลากเกวียน”

“ข้าเห็นด้วยกับท่านพ่อเจ้าค่ะ”

“เอาล่ะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ ดูสิเจ้าเด็กแสบสองคนนั่นหลับไปแล้ว พวกเจ้าเองก็พาลูกกลับไปนอนที่ห้องเถอะ”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ”

เช้าวันต่อมานางฟางและลูกสาวเก็บของที่เหลือเอาไว้ด้านนอกลงหีบ ของที่จำเป็นล้วนเก็บเรียบร้อยแล้ว ฉีหลินหลังจากดูแลสามีให้กินข้าวกินยาเสร็จเรียบร้อยแล้วนางถึงได้ไปช่วยน้องชายสามีและลูก ๆ ของนางตัดผัก    ที่ปลูกเอาไว้ในแปลงหลังบ้าน ผักกาดขาวพวกนี้สามารถนำไปทำผักดองเอาไว้กินได้

“ท่านแม่เจ้าคะ ผักกาดขาวพวกนี้ข้าคิดว่าจะนำไปทำเป็นผักดองเจ้าค่ะ”

“ดีเหมือนกันแม่เองก็กังวลว่าจะทำยังไงกับผักพวกนี้ จะทิ้งเอาไว้ที่นี่ก็เสียดาย”

“เจ้าค่ะ ต่อไปนี้พวกเราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเจ้าค่ะ ท่านแม่วางใจเถอะ”

“เมื่อวานแม่ได้ยินว่าหลี่กุ้ยฮัวมาหาเรื่องทะเลาะกับเจ้าหรือ”

“นางมาถามข้าว่าท่านพี่รักษาตัวอยู่ที่ใดน่ะเจ้าค่ะ”

“พ่อแม่นางล้วนนิสัยใจคอดี แต่ทำไมนางถึงได้มีนิสัยเช่นนั้นอยู่  นางไม่ยอมทำงานในนาไม่ช่วยเหลืองานใด ๆ ทั้งนั้น แม่ได้ยินพี่สะใภ้ของนางพูดว่าจะให้นางแต่งออกไปที่หมู่บ้านลู่ซางที่อยู่ไกลจากที่นี่มากเพราะ      การกระทำของนางจึงหาชายหนุ่มให้นางแต่งด้วยไม่ได้ในหมู่บ้านใกล้เคียงนี้”

“นางทำตัวเองเจ้าค่ะ นางย่อมต้องยอมรับผลกรรมที่ตามมา”

“จริงสิหลินเอ๋อร์ แม่ได้ยินมาว่าฮุ่ยเหม่ยก็จะแต่งออกไปเช่นเดียวกัน กับเศรษฐีในเมืองน่ะ”

“เหอะ ๆ ท่านป้าคงยินดีปรีดาที่ลูกสาวได้แต่งเป็นอนุภรรยาของคนมีเงิน”

“ก็ดีแล้วนางจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับพวกเราอีก”

“คนพวกนี้วางใจไม่ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคิดว่าสองแม่ลูกคู่นั้น    กำลังหาทางเล่นงานพวกเราอยู่แน่ ๆ”

“แม่เองก็คิดเช่นเดียวกับเจ้า ถ้าให้แม่ยังอยู่ที่นี่นานมากกว่านี้คิดว่าแม่คงป่วยเป็นโรคหวาดระแวงเข้าสักวัน เพราะพี่สะใภ้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ยิ่งตอนนี้ลูกชายทั้งสองของนางไม่คล้อยตามนางอีกแล้ว นางยิ่งจะแค้นใจพวกเรามากขึ้น”

“ยังดีที่ลูกชายของนางไม่มีใครเหมือนนางเลย ส่วนท่านลุงไม่รู้ว่าคิดอันใดอยู่ท่านพ่อบอกว่าเมื่อก่อนท่านลุงไม่ใช่เป็นคนแบบนี้ไม่ใช่หรือเจ้าคะท่านแม่”

“ใช่ แม่เองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรท่านลุงของพวกเจ้าถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ หลังจากที่ท่านปู่และท่านย่าของพวกเจ้าตายไป เขาก็เปลี่ยนเป็น    คนละคนเลย”

“แล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะเจ้าค่ะท่านแม่ ใครทำอะไรก็จะได้แบบนั้น เก็บผักเสร็จแล้วข้าจะพาน้อง ๆ เข้าป่านะเจ้าคะเผื่อจะได้อะไรกลับมาทำอาหาร”

“อืมไปเถอะ หลาน ๆ แม่จะดูให้เองไม่ต้องห่วง”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากที่ตัดผักใส่ตะกร้าและขนเข้ามาเก็บเอาไว้ภายในบ้านเสร็จแล้ว ฉีหลินพาน้องชายน้องสาวของสามีเข้าป่าทันที ฉีหลินต้องการหาอาหารมาบำรุงร่างกายสามีให้ดี เมื่อหายดีแล้วจะได้ใช้งานเขาให้เต็มที่ ส่วนใช้งานอะไรนั้นค่อยว่ากันอีกที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป